คำจำกัดความต่างในรูปแบบของเรา
Cupnote | คัปโน๊ต
หมายถึงลักษณะรสชาติ และกลิ่นที่และความรู้สึก หรือที่สามารถรับรู้ได้เมื่อดื่มกาแฟ เป็นการอธิบายประสบการณ์การดื่มกาแฟโดยรวม
จากข้อมูลที่เห็นในบริบท เราสามารถเห็นตัวอย่างของ Cupnote ได้ เช่น:
กาแฟ ที่มี Cupnote เป็น Carnation / Raspberry / Red Cherry / Fruit Tea
โดยหมายถึงกาแฟจะมีกลิ่นหอมเหมือนดอกคาร์เนชั่น หรือคล้ายกุหลาบอ่อนๆ ละมุ่น ไม่ฉุน ความเปรี้ยววคล้ายกับผลไม้เบอร์รี่ หรือเชอร์รี่ และมีความฝาด หรือระดับความเข้มข้นให้ความรู้สึกคล้ายดื่มชาผลไม้
Cupnote เหล่านี้ช่วยให้ผู้ดื่มเข้าใจลักษณะรสชาติและกลิ่นที่พวกเขาอาจสัมผัสได้เมื่อดื่มกาแฟแต่ละชนิด แต่ไม่ได้หมายถึงมีกลิ่นแสดงโดยตรงจากการใส่ส่วนผสมของผลไม้ดังกล่าวลงไป
Location | พื้นที่ปลูก
คือแหล่งที่มาของการปลูกกาแฟว่ากาแฟดังกล่าวมีการปลูกและนำเข้าจากประเทศอะไร
Vareital | สายพันธุ์
หมายถึงกาแฟที่มาจากพันธุ์เมล็ดกาแฟเฉพาะ ซึ่งจะมีลักษณะและรสชาติที่แตกต่างกันไปตามพันธุ์นั้น ๆ เช่น Arabica, Robusta หรือพันธุ์อื่น ๆ เช่น Java Cartimore กาแฟจากพันธุ์ที่แตกต่างกันสามารถบ่งบอกถึงคุณภาพและเอกลักษณ์ของกาแฟที่ผู้ผลิตต้องการนำเสนอ รวมถึงสามารถสะท้อนถึงแหล่งปลูกและวิธีการผลิตที่ใช้ในการเพาะปลูกกาแฟนั้น ๆ ด้วย
Grade | เกรดของกาแฟ
หมายถึงการจัดระดับคุณภาพของกาแฟ ซึ่งมักใช้เพื่อประเมินและจัดประเภทกาแฟตามเกณฑ์ต่าง ๆ เช่น รสชาติ กลิ่น ความสะอาด และการมีข้อบกพร่อง เมล็ดกาแฟจะถูกตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญหรือผู้เชี่ยวชาญในการชิมกาแฟ (Q Graders) โดยทั่วไปจะมีการแบ่งเกรดออกเป็นหลายระดับ เช่น
Specialty Coffee: กาแฟคุณภาพสูงที่มีคะแนนตั้งแต่ 80 ขึ้นไปตามมาตรฐานของ SCA (Specialty Coffee Association)
Commercial Coffee: กาแฟที่มีคุณภาพรองลงมาและมักใช้ในการผลิตในปริมาณมาก
การจัดเกรดนี้ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกกาแฟที่ตรงตามความต้องการ และช่วยให้ผู้ผลิตสามารถตั้งราคาและตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของตนได้อย่างเหมาะสม
โดย commerical เกรด ยังสามารถแยกย่อไปได้ตามการคัดขนาด ตามแต่ละ ประเทศต่างๆ เป็นผู้กำหนดเช่น
AA / A / X / Y / TOP AA / Top AB / SHB
Process | การแปรรูปกาแฟ
การแปรรูปกาแฟเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการผลิตกาแฟ ซึ่งมีวิธีหลัก ๆ ดังนี้:
Wet Process (Washed):
เมล็ดกาแฟจะถูกล้างเพื่อเอาเนื้อผลออกก่อนการอบแห้ง โดยจะใช้น้ำในการแยกเมล็ด
ผลลัพธ์: ได้กาแฟที่มีรสชาติชัดเจนและมักมีความเปรี้ยว
Dry Process (Natural):
เมล็ดกาแฟจะถูกตากในผลจนแห้งโดยไม่ต้องล้าง
ผลลัพธ์: ได้กาแฟที่มีรสหวานและกลิ่นผลไม้ มักจะมีรสชาติที่ซับซ้อนกว่า
Honey Process:
เมล็ดกาแฟจะถูกล้างออกเพียงบางส่วน โดยมีเนื้อผลติดอยู่บางส่วนและตากให้แห้ง
ผลลัพธ์: ได้กาแฟที่มีรสชาติหวานและกลิ่นที่ดี มักจะมีความซับซ้อนในรสชาติ
Pulped Natural:
วิธีการ: คล้ายกับ Honey Process แต่เนื้อผลจะถูกล้างออกมากกว่า ทำให้มีความหวานสูง
ผลลัพธ์: รสชาติคล้าย Wet Process แต่มีความหวานและกลิ่นที่เด่นกว่า
Wet-Hulled:
เมล็ดกาแฟจะถูกล้างแล้วเอาเปลือกออกก่อนที่จะตาก ทำให้เมล็ดยังมีความชื้นอยู่
ผลลัพธ์: พบมากในกาแฟจากอินโดนีเซีย มีรสชาติที่ดิบและมักมีความซับซ้อน
แต่ละวิธีการแปรรูปจะมีผลต่อรสชาติและคุณภาพของกาแฟที่ได้ ทำให้เกิดกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละภูมิภาค
Roasting Level | ระดับการคั่วกาแฟ
ระดับการคั่วกาแฟสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ตามลักษณะของรสชาติและกลิ่นที่ได้จากการคั่ว โดยทั่วไปจะแบ่งเป็น 5 ระดับหลัก ๆ ดังนี้:
Light Roast:
ลักษณะ: เมล็ดกาแฟจะคั่วจนมีสีอ่อน ไม่ถึงจุดที่มีน้ำมันออกมา
รสชาติ: รสชาติมักมีความสดชื่นและเปรี้ยว กลิ่นดอกไม้หรือผลไม้ชัดเจน
Medium Roast:
ลักษณะ: เมล็ดกาแฟจะคั่วจนมีสีทองถึงสีน้ำตาลเข้ม โดยเริ่มมีน้ำมันปรากฏที่ผิวหน้า
รสชาติ: รสชาติสมดุล มีความหวานและความเปรี้ยวที่นุ่มนวล มักจะมีรสชาติกลมกลืน
Medium-Dark Roast:
ลักษณะ: เมล็ดกาแฟจะคั่วจนมีสีน้ำตาลเข้ม โดยมีน้ำมันปรากฏที่ผิวหน้า
รสชาติ: รสชาติเข้มข้น มีความหวานและกลิ่นที่เข้มข้น อาจมีรสชาติที่ขมเล็กน้อย
Dark Roast:
ลักษณะ: เมล็ดกาแฟจะคั่วจนมีสีน้ำตาลเข้มถึงดำ โดยมีน้ำมันมากที่ผิวหน้า
รสชาติ: รสชาติที่เข้มข้นและขม มักจะมีรสชาติควันหรือขนมปังคั่ว
French Roast: Extra Dark Roast
ลักษณะ: เมล็ดกาแฟจะคั่วจนเกือบไหม้ มีสีดำและน้ำมันมาก
รสชาติ: รสชาติที่ขมมากและมีกลิ่นควันที่ชัดเจน มักจะมีความเข้มข้นสูง
*การเลือกระดับการคั่วขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและประเภทของกาแฟที่ต้องการเสิร์ฟ
Micro batch roaster
หมายถึงการคั่วกาแฟในปริมาณเล็กน้อยหรือ "micro batch" ซึ่งมักจะมีการควบคุมคุณภาพอย่างละเอียด โดยผู้คั่วจะสามารถใส่ใจในรายละเอียดของกระบวนการคั่วได้มากขึ้น
ปริมาณเล็กน้อย : การคั่วในปริมาณเล็กน้อยช่วยให้สามารถทดลองและปรับแต่งรสชาติได้ตามต้องการ
การควบคุมคุณภาพ : ผู้คั่วสามารถปรับกระบวนการคั่วได้ตามความต้องการของแต่ละล็อต ทำให้ได้กาแฟที่มีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์
Micro batch roasters จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพกาแฟที่สูงและรสชาติที่เฉพาะเจาะจง โดยมักมีความใส่ใจในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตตั้งแต่การเลือกเมล็ดกาแฟจนถึงการคั่ว