บทสัมภาษณ์ เจ้าของคาเฟ่ชื่อดัง Pomelo Cafe'

บทสัมภาษณ์ เจ้าของคาเฟ่ชื่อดัง Pomelo Cafe'
คาเฟ่ในสวนผลไม้ แห่งเมือง นครชัยศรี
พี่ติ๋ม อภัสรา แก่นจันทร์

"เมื่อวิกฤติน้ำท่วมปี 2554 จนงานประจำที่เริ่มมีผลกระทบ เลยเป็นความริเริ่มที่อยากทำอะไรเป็นของตัวเอง ไอเดียที่อยากต่อยอดจากสิ่งที่เรามี สานต่อกับเรื่องเรารัก ด้วยความกล้าที่จะฉีกแนวจากร้านอื่นๆ มาทำคาเฟ่อยู่ในป่าในสวน จนวันนี้ที่เราประสบความสำเร็จ และเอาชนะคำติเตือนทั้งหลาย ว่ามาอยู่อยู่ตรงนี้จะขายให้ใคร"

  ไอเดียที่เริ่มจากการต่อยอด
พี่ติ๋ม เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะมาเจ้าเป็นของกิจการ ก็เป็นพนักงานโรงแรมมาก่อน ทำมาได้สักพัก จนปี 2554 ปีที่มีวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ ธุรกิจโรงแรมก็มีผลกระทบ พี่ติ๋มเองเลยคิดว่า เราต้องมองหาลู่ทางในการทำธุรกิจเป็นของตัวเองดีกว่า ประจวบกับที่สามีก็มีสวนส้มโออยู่ ก็เลยเกิดไอเดียว่าควรจะต่อยอดจากสวนผลไม้ธรรมดาๆ ให้เป็นอะไรที่เหมาะกับเราทั้งคู่ขึ้นมา ซึ่งด้วยความที่พี่ติ๋มเรียนจบด้านอาหารมา และช่วงนั้นร้านกาแฟสดก็กำลังเป็นที่นิยมมาก สามีพี่ติ๋มเองก็เป็นคนชอบกาแฟมาก ก็เลยตัดสินใจว่า เราจะลองฉีกแนวจากร้านกาแฟอื่นๆ มาทำร้านกาแฟในสวนผลไม้กันดู เลยเกิดเป็น"Pomelo"ขึ้น คาเฟ่ในสวนผลไม้แห่งแรกๆในนครปฐม

 มาทำอยู่ตรงนี้จะขายใคร
พี่ติ๋มเล่าย้อนถึงก่อนจะเริ่มทำร้าน ได้ชวนเพื่อนๆมาช่วยดู ว่ามันจะโอเคไหม กับแนวความคิดของเรา เพราะด้วยความที่สวนเรา ไม่ได้อยู่ในตัวเมือง ไม่ได้เป็นที่ชุมชน ไม่ได้เป็นถนนเส้นหลัก คนรู้จักก็ยังไม่มี 

"ก็เริ่มกังวลๆบ้าง จากหลายๆเสียงที่พูด ว่าในสวนในป่าแบบนี้... มาอยู่ตรงนี้จะขายให้ใคร"

แต่ด้วยความที่เราเองเป็นคนมุ่งมั่นนะ ว่าเราอยากทำอะไร ที่เริ่มจากสิ่งที่เราชอบ ต่อยอดจากสิ่งเราที่มี เราเป็นคนชอบต้นไม้อยู่แล้ว ลุงเองก็เป็นคนชอบกาแฟ ถ้ามีร้านกาแฟนั่งสบายๆ ที่มีต้นไม้เยอะๆเป็นสวนร่มรื่นๆ เราก็อยากมานั่ง ก็หวังว่ามันต้องมีคนชอบแบบเรามั่งแหละหน่า 555

 เออ! ก็คิดว่าจะขายไม่ได้เลยนะ
เป้าหมายแรกๆของเรา ก็ไม่ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะขายดีมาก เพราะเราทำกันสองคนลุง-ป้า ขายได้วันละพันกว่าบาท มันก็โอเคแล้ว เพราะเออ! ก็มีแอบๆคิดว่าอาจจะขายไม่ได้เลย 

จากยอดขายวันละพันกว่าบาท อาจจะด้วยดวงก็ได้ 5555 หรือด้วยความชอบของเราด้วย คือต้นไม้ทุกต้นในสวน เราก็ปลูกกันเอง ใส่ปุ๋ยรดน้ำกันเอง ก็เริ่มมีเด็กๆมาทัศนศึกษา มาดูการทำสวน ให้เราสอนเด็กๆปลูกส้มโอ ปลูกผลไม้กัน ก็เริ่มมีคนรู้จักในพื้นที่มากขึ้น 

พอคนในพื้นที่เริ่มรู้จักเรามากขึ้น ก็เริ่มมีสื่อฯเข้ามาขอรีวิวร้าน เพราะเราเป็นคาเฟ่ในสวนผลไม้ ร้านแรกๆของนครปฐมเลย เรากล้าที่จะทำร้านให้มีเอกลักษณ์ที่มีความแตกต่างจากที่อื่น หลายๆสื่อ หลายๆช่องทีวี ก็สนใจร้านเรา มารีวิวให้เราเยอะขึ้น แรกๆนี่ไม่เสียเงินด้วยนะ 5555 

คราวนี้ก็เริ่มเป็นที่รู้จักจากคนต่างพื้นที่ เริ่มขายดีขึ้นมาเรื่อยๆ เราก็เริ่มต่อยอดอีก จากขายเฉพาะกาแฟ ก็เริ่มมามีขายอาหาร-ขนม มีเพิ่มโต๊ะ เพิ่มโซนที่นั่งเพิ่ม ก็ทำมาเรื่อยๆ จนเรากลายเป็นคาเฟ่ในสวน ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ร้านแนะนำที่นครปฐม



  ต้องคิดต่อยอดเพิ่มเรื่อยๆ
เมนูต่างๆในร้าน พี่ติ๋มเป็นคนคิดเองทั้งหมด โดยเราก็คิดต่อยอดจากสิ่งที่เรามี เรามีส้มโอปลูกเอง เราก็ทำเมนูข้าวยำที่ใส่ส้มโอ เรามีพืชผักสวนครัว มีตะไคร้ที่เราปลูกเอง เราก็มาทำเป็นเครื่องแกง เรามีมะพร้าวในสวน เราก็ทำเมนูกาแฟใส่น้ำมะพร้าว มีใบชะพลู เราก็ใส่ในยำส้มโอให้ลูกค้ากินเป็นผักแนม ผักส่วนใหญ่เราปลูกเอง เราก็ไม่ได้ฉีดยา ไม่มีอันตราย ลูกค้าก็ได้กินของดีด้วย ก็มีบางทีผักที่เราปลูกไม่พอเวลาเราไปซื้อผัก ยังกังวลๆเลย ว่าเค้าจะฉีดยาเยอะไหมนะ 5555

 จะสอนจะสั่ง ให้เหมือนสอนลูกสอนหลาน
การจัดการเรื่องคนเป็นอีกสิ่งที่ท้าทาย ยากพอๆกับการทำร้านให้คนรู้จักเลยล่ะ พอเราเริ่มขยายร้านจะทำกันสองคนลุง-ป้า ก็ไม่ไหว ต้องมีพนักงานเพิ่มมาเรื่อยๆ จนตอนนี้มีพนักงานประจำ 10 คน ถ้าเสาร์-อาทิตย์ ต้องใช้พนักงาน 15 คน ก็มีรับเด็กๆในพื้นที่อยากหารายได้เสริม มาทำงานพิเศษช่วงเสาร์-อาทิตย์ จะให้พนักงานทุกคนทำงานกันเต็มที่ เราก็ต้องดูแลกันเต็มที่ เหมือนเค้าเป็นลูกเป็นหลาน ไม่ใช่ลูกน้อง จะสอนจะสั่ง ให้เหมือนสอนลูกสอนหลาน ถอดความเป็นเจ้าของร้านออกไป จะได้อยู่กันได้นานๆ เราไม่อยากจะเปลี่ยนพนักงานบ่อยๆ ทำงานต้องรู้ใจกัน เราชอบความสะอาดสะอ้าน อะไรต้องล้างคือต้องล้าง ผักต้องเด็ดทีละใบ บางทีเรายุ่ง เราไม่สามารถดูทุกอย่างได้ตลอด ถ้าอยู่จนรู้ใจกันก็รู้ว่าต้องทำงานยังไง อยู่กันนานๆไปก็รักในหน้าที่ รักร้านไปด้วยกัน

  ความสุข ก็ถือเป็นกำไร
ต้นทุนของหลายๆอย่างมันขึ้นจริงๆ อะไรขึ้นราคามากๆ จนเราอยู่ไม่ไหว เราก็ต้องปรับขึ้น คือพี่ติ๋มโชคดี ได้ลูกค้าดี เป็นลูกค้าประจำเยอะ อุดหนุนกันมาเป็น 10 ปีแล้ว มากันเป็นกลุ่มๆ กลายเป็นที่นัดรวมแกงค์ก็มี ซึ่งลูกค้าประจำๆเค้าก็รู้ว่าเราขึ้นไม่ได้ขึ้นราคามาก แค่พอให้เราอยู่ได้ ให้เค้ามากินเราได้ประจำๆ บางคนมากินกันตั้งแต่พี่ติ๋มเปิดร้านใหม่ๆ จนทุกวันนี้ก็ยังมากันให้เห็นหน้าประจำๆ บางทีกำไรมันอาจไม่ได้มากมาย เห็นลูกค้ามาร้านเรา แล้วยิ้มมีความสุขกัน เราก็มีความสุขไปด้วย นี่ก็ถือเป็นกำไรเหมือนกันนะ



  หัวใจมันจะพองโต
พี่ติ๋มแนะนำถึงคนที่จะเปิดร้านกาแฟไว้ว่า จะเปิดร้านอะไรก็ตามนะ ไม่ใช่แค่มีเงินแล้วจะเปิดได้ ต้องรักที่จะทำมันด้วย แล้วอย่าเพิ่งไปลงทุนจนหมดหน้าตัก หรือไปกู้เงินมาเปิด อาจเปิดเล็กๆก่อนก็ได้ ให้เราได้ลองว่าสายอาชีพนี้เหมาะกับเราไหม เราพร้อมไหม เรารักมันจริงไหม ค่อยๆเก็บเกี่ยวประสปการณ์ไป อย่างพี่ติ๋มเป็นคนรักต้นไม้ ลุงเป็นคนชอบกาแฟ เราทำคาเฟ่ในสวน มันก็แมทช์กัน เชื่อพี่ติ๋มเถอะว่า นอกจากรายได้ที่เราจะได้ใช้หล่อเลี้ยงชีวิตเราแล้ว เมื่อมีคนมาชื่นชอบในสิ่งที่เราทำมันด้วยใจรัก หัวใจมันจะพองโต

  พิกัด: Pomelo Cafe'

 วันอังคาร- วันอาทิตย์ 7.00 - 18.00 น.
  โทร : 081 007 1057