Ristretto / Espresso / Lungoช็อตกาแฟทั้ง 3แบบ ต่างกันอย่างไร

194997 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Ristretto / Espresso / Lungoช็อตกาแฟทั้ง 3แบบ ต่างกันอย่างไร

Ristretto / Espresso / Lungo
ช็อตกาแฟทั้ง 3 แบบ วิธีการต่างกันอย่างไร และให้รสชาติอย่างไร?


(รูปแบบดั่งเดิม Old School Idea)
วิธีการชงกาแฟที่แตกต่างกัน โดยมีลักษณะและรสชาติที่ไม่เหมือนกัน ดังนี้:

Ristretto :
เป็นการชงกาแฟที่ใช้ปริมาณกาแฟเท่ากับ espresso แต่ใช้น้ำที่น้อยกว่า ทำให้ได้กาแฟที่เข้มข้น รสชาติหวานและนุ่มนวลกว่าปกติ เนื่องจากการสกัดที่สั้นกว่า
Espresso :
เป็นกาแฟที่ชงด้วยน้ำร้อนผ่านกาแฟบดละเอียด โดยปริมาณน้ำประมาณ 30 ml สำหรับกาแฟหนึ่งช็อต มีรสชาติเข้มข้นและมีครีม (foam) ที่อยู่ด้านบน
Lungo :
เป็นกาแฟที่ชงคล้ายกับ espresso แต่ใช้น้ำมากกว่า ทำให้การสกัดนานขึ้น ปริมาณน้ำอาจอยู่ที่ 60 ml ขึ้นไป ส่งผลให้มีรสชาติที่บางลง และอาจมีความขมมากกว่า


หลังการมาของ Specialty Coffee นั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงการสกัดกาแฟ ทั้ง 3 เมนูให้เปลี่ยนไปจากเดิม

โดย รูปแบบที่นิยมในปัจจุบันคือ Espresso Brewing Ratio จะเป็นรูปแบบการสกัดกาแฟที่บาริสต้าสมัยใหม่เลือกใช้
โดยอ้างอิงจากปริมาณกาแฟที่เลือกใช้เป็นหลังเป็นตัวกำหนดปริมาณน้ำกาแฟที่ต้องการ

(รูปใหม่ Modern Espresso) 

Ristretto สกัดกาแฟในอัตราส่วน (1:1)
น้ำหนักกาแฟ 18 กรัม* : น้ำหนักน้ำกาแฟ  18-20กรัม หรือ 18-20 มล. ในระยะเวลาการสกัด 25-30 วินาที

Espresso สกัดกาแฟในอัตราส่วน (1 : 1.5-2)
น้ำหนักกาแฟ 18 กรัม : น้ำหนักน้ำกาแฟ  36-40กรัม หรือ 36-40 มล. ในระยะเวลาการสกัด 25-30 วินาที

Lungo สกัดกาแฟในอัตราส่วน (1 : 2.5-3 )
น้ำหนักกาแฟ 18 กรัม : น้ำหนักน้ำกาแฟ  45-54กรัม หรือ 45-54 มล. ในระยะเวลาการสกัด 25-30 วินาที

*ปริมาณกาแฟดังกล่าวสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ตามประเภทและขนาดตะแกรงใส่กาแฟบด ขึ้นอยู่กับบาริสกำหนดโดยมีปริมาณกาแฟตั่งแต่ 16-24 กรัม 

บทสรุป
โดยปัจจัยในเรื่องระดับการคั่ว และผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปส่งผลให้การสกัดกาแฟ ทั้ง 3 เมนูอาจไม่ได้รับความนิยมเหมือนเดิม โดย เอสเพรสโซ่ยังคงเป็นชื่อหลังที่เราใช้ในการนำเสนอกาแฟในเมนูต่างๆ แต่บางครั้งบาริสต้ามักเรียกชื่อ ริเซ็ทโต้ ว่าเป็นเอสเพรสโซ่ใน Ratio 1:1  ก็เป็นไปได้
โดยภาพรวมแล้วบาริสต้าเองจะรู้และเข้าใจในช็อตกาแฟที่สกัดออกมาเพื่อที่จะ นำกาแฟดังกล่าวไปประกอบเมนูอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการเช่น
กาแฟลาตเต้ร้อนในปัจจุบัน นิยมใช้วิธีชงแบบ Ristreto หรือ เอสเพรสโซ่ในการสกัดแบบ 1 : 1 เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในอัตราส่วนอื่นๆ

หรือ การชงกาแฟคั่วอ่อนที่ต้องการการสกัดน้ำกาแฟออกมาหให้มากว่าปกติหน่อย ก็คล้ายกับชงกาแฟลันโก้ หรือเอสเพรสโซ่ ในอัตราส่วน  1 : 3 ซึ่งทำให้ได้กาแฟดำที่รสชาติดีกว่าการสกัดแบบ 1 : 2 
ดังนั้นเมนุชื่อเมนูกาแฟทั้งสามเมนูนี้ จะได้รับความนิยมน้อยลง แต่ไปเรียกการชงกาแฟเมนูต่างๆดังกล่าวไปด้วยคำว่า เอสเพรสโซ่ ในอัตราส่วนที่ แทนที่



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้